- กลายเป็นกระแสTalk of the town ที่ถูกพูดถึงอยู่ในขณะนี้หลังนักแสดงสาว ต้อง ศุภชญา รื่นเริงไปออกรายการ 'ล้วง ลับ ตับแตก' และเปิดเผยถึงข่าวคราวรักสามเศร้าเราสามคนของระหว่าง เจ้าตัวกับอดีตแฟนหนุ่ม ธัญญ์ ธนากร และนางเอกหน้าหวาน วิกหมอชิต อย่าง ยุ้ย จีรนันท์ มะโนแจ่ม ล่าสุดเรื่องดังกล่าวก็ทำท่าจะไม่จบลงง่ายๆเมื่อหนุ่มธัญญ์ถึงกับต่อสายตรงมาเคลียร์หลังรายการออกอากาศทำเอาคุณพ่อของดาราสาวออกอาการเคลียดอย่างหนักจนออกปากห้ามไม่ให้สาวต้องเอ่ยชื่ออดีตแฟนหนุ่มขึ้นมาอีก เล่นเอาสาวต้องต้องหลั่งน้ำตาก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงทุกเรื่องเป็นครั้งสุดท้ายและยืนยันว่าจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป!!!~ “เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเพราะต้องไปออกรายการและก็ไปพูดความจริงที่นั่น ประเด็นที่ถามก็คือประเด็นที่เป็นข่าวแล้วทั้งนั้นเพียงแต่เราไม่เคยออกมาตอบ ไม่เคยออกมาพูด พอไปออกรายการเขายิงประเด็นมามันก็เหมือนเราได้ชี้แจง มันก็เลยเหมือนกับว่า เอ๊ะทำไมเราออกมาพูดตอนนี้ ถ้าถามว่าแฉไหม ต้องว่าไม่ได้แฉ ถ้าจะแฉต้องแฉไปตั้งนานแล้ว เพียงแต่ว่าเป็นช่วงจังหวะที่เราต้องทำงาน ต้องคิดว่าถ้าพร้อมก็ต้องออกมาพูด และต้องก็เป็นคนพูดตรง คนที่เคยเจอเหมือนเราก็คงจะรู้สึกเหมือนเรา ก็ไม่รู้จะมานั่งเฟกทำไม” “ถ้าใครจะไม่พอใจกับคำตอบต้องเราก็เข้าใจ เราได้ตอบทุกอย่างไปหมดแล้ว เรารู้สึกยังไงในช่วงเวลา 1 ปี 8 เดือนที่เราทนมาเราก็พูดไปตามนั้น ต้องรู้สึกว่าเราไม่จำเป็นต้องเฟกแล้ว ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เราแคร์พี่ธัญญ์และเขาก็อยู่ในสังกัดเดียวกัน เราก็ไม่อยากทำให้ใครต้องเดือดร้อน เราก็คิดว่าไม่พูดดีกว่า แต่พอ ณ จุดนี้ต้องกับเขาจบกันไปแล้วเลยคิดว่าคงจะพูดได้แล้ว”
เห็นว่าธัญญ์โทรมาเคลียร์ด้วย “ค่ะพอรายการออกอากาศไปเขา(ธัญญ์)ก็โทรมาเลยทั้งที่ 3 เดือนที่เลิกกันไปเขาไม่เคยติดต่อมาเลย เขาก็ถามว่ายังไงทำไมไปพูดแบบนั้นตอบตรงตอบแรง ต้องก็อธิบายไปว่า เราพูดไปตามความเป็นจริง มันเป็นข่าวที่มีอยู่แล้วเขาถามมาต้องก็ตอบ มันไม่ใช่เรื่องที่คนอื่นไม่รู้หรือเป็นเรื่องที่เราโกหก เขาก็รับฟังแต่เขาไม่ได้สั่งห้ามเขาไม่มีสิทธิ์ ณ ตอนนี้เรามันเดินคนละทางกันแล้ว เขาไม่มีสิทธิ์จะมาพูดแบบนี้” “เขาก็โกรธที่เรามาพูดแบบนี้ แต่ต้องก็บอกว่ามันเป็นความรู้สึกของเรา ถ้ามีใครจะไปถามเขา เขาจะตอบยังไงมันก็เรื่องของเขาเราก็ไม่ยุ่งเหมือนกัน “เขาก็บอกว่าจะอะไรทำไมนักหนาแต่เขาไม่ได้ห้าม อย่างที่บอกเขาไม่มีสิทธิ์อะไรและต้องก็ไม่ฟัง ต้องก็แค่พูดความจริงและตอบตรงเท่านั้นเอง แต่อย่างว่าถ้าต้องตอบสร้างภาพมันก็คงไม่ออกมาเป็นแบบนี้” พูดค่อนข้างแรง ถึงขั้นใช้คำว่า “เกลียดยุ้ย” “ต้องมีความรู้สึกว่า ตลอดระยะที่เป็นข่าวที่เขาบอกว่า เขาเป็นเพื่อน ถ้าเขาเป็นเพื่อนคุณ และเพื่อนคุณทะเลาะกับแฟนเพราะคุณ ไม่ว่าจะเป็นเพราะข่าวหรืออะไร ทำไมคุณถึงไม่นิ่งทำไมถึงไม่หยุด ซึ่งต้องก็เคยบอกทางฝ่ายชายคนของเราแล้วว่า ช่วยบอกให้เขาเคลียร์ บอกตรงๆ ว่า ต้องรับไม่ได้กับการให้สัมภาษณ์ของเขา ที่จะแบบว่า คนที่ดีที่สุดที่สนิทที่สุดตอนนี้ก็คือคนของเรา คือบางครั้งทำอะไรเกรงใจคนที่เขายืนอยู่ข้างๆ ธัญญ์ตลอดบ้าง ซึ่งถ้าเขาไม่มีอะไรเขาก็ไม่น่าจะให้สัมภาษณ์ว่าสนิทกันกับแฟนของเรา”
“คือคนเรามันควรจะรู้ลิมิต และยิ่งรู้ว่ามีปัญหา และปัญหาจากตัวคุณ คุณบอกคนนี้คือเพื่อน แล้วเห็นเพื่อนมีปัญหากับแฟนทำไมไม่หยุด ทำไมไปตอบอะไรแบบนั้นไม่หยุด ความจริงต้องมีอะไรอยากจะพูดเยอะมากแต่ต้องไม่พูดเลยแล้วทำไมเขาไม่หยุด ต้องมีความรู้สึกเขาต้องการพิสูจน์ความเป็นเพื่อนอะไร ต้องการพิสูจน์อะไร หรือต้องการอะไรกันแน่” “ต้องบอกไปที่คนของเราว่าเคลียร์ให้หน่อย ก็ไม่เคยได้รับฟีดแบคอะไรกลับมา หรือแม้แต่เขาไปทำงานด้วยกัน รับงานอีเว้นท์ร่วมกัน ต้องก็ไม่เคยได้รับคำอธิบายว่า ไปทำในฐานะอะไร เขาไม่เคยแคร์ว่าต้องรู้สึกยังไง จะคบกันทำไมไม่แคร์กัน ต้องเคยถามว่าจะสร้างกระแสกันหรือเปล่าจะปั้นกันหรือเปล่า แต่เขาก็ไม่มีคำอธิบายไม่มีอะไรทั้งสิ้น” “กับความสัมพันธ์กับเขาที่ผ่านมาบอกตรงๆ ว่า ต้องสงสัยแต่ต้องก็เคลียร์กับคนของเราไม่ไปยุ่งกับอีกฝ่าย อย่างง่ายๆ เลยเรื่องโทรศัพท์เราจะหยิบของกันและกันมาดูตลอด ไม่ได้เรียกว่าเชคคืออยากหยิบดูก็ดู แต่พอเขาเป็นข่าวด้วยกัน วันดีคืนดีต้องจะหยิบดูโทรศัพท์ไม่ให้ดูเราก็เอ๊ะทำไม เราก็แบบคุยกันหรือเปล่าเนี่ย ส่งข้อความหากันหรือเปล่าขอดูหน่อยนะ เขาก็ไม่ให้ดู(หมายถึงคุยกับยุ้ยหรือเปล่า) ใช่ค่ะ อันนี้เป็นพ้อยท์แรกเลยที่เราสงสัย เขาบอกไม่มีไม่ได้คุยแต่ทำไมถึงดูไม่ได้”
ขอบคุณภาพและเนื้อหาจากเว็บที่นี่ ดอทคอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น